ไผ่ พงศธร
เป็นนักร้องลูกทุ่งที่มีชื่อเสียงโด่งดังในปัจจุบันจากผลงานเพลง
สุดท้ายคืออ้ายเจ็บ, บังเอิญมีหัวใจ, สาวกันตรึม ฯลฯ สังกัดค่ายแกรมมี่ โกลด์ ในบริษัทจีเอ็มเอ็ม แกรมมี่
เกิดเมื่อวันที่ 12 มิถุนายน พ.ศ. 2525 ที่บ้านสร้างแต้ ตำบลโพนงาม อำเภอกุดชุม จังหวัดยโสธร เป็นลูกคนที่ 4 ของครอบครัวจากจำนวนพี่น้องทั้งสิ้น 4 คน ชื่อจริง ประยูร ศรีจันทร์ ชื่อเล่น ไผ่ ฉายา หนุ่มตามฝันจากบ้านไกล วันเกิด 12 มิถุนายน พ.ศ. 2525 ภูมิลำเนา ยโสธร แนวเพลง เพลงลูกทุ่ง อาชีพ นักร้อง ค่าย แกรมมี่ โกลด์ ราศี เมถุน ศาสนา พุทธ อาหารที่ชอบ ข้าวขาหมู และ ข้าวเหนียวส้มตำ กีฬาที่ชอบ ปิงปอง แนวภาพยนต์ที่ชอบ โรแมนติค แนวเพลงที่ชอบ ผมร้องลูกทุ่งก็ต้องชอบเพลงลูกทุ่งสิครับ นักร้องที่ชอบ ครูสลา คุณวุฒิ นักแสดงที่ชอบ หม่ำ จ๊กม๊กครับเพราะเป็นคนจังหวัดเดียวกัน เพลงที่ชอบ ทุกเพลงครับ ยามว่าง ร้องเพลง ของสะสม ตุ๊กตาที่แฟนเเพลงมอบให้ สีที่ชอบ ฟ้า ขาว น้ำเงิน สัตว์ที่ชอบ ปลาครับ เลี้ยงไว้ดูเล่น สัตว์ที่เกลียด บอกตรง ๆเลยครับว่าเกลียดตัวบุ้งมากที่สุด ( แมงบ้งนั่นน๊า) เว็บไซต์ www.phaiclub.com ผลงานอัลบั้มเดี่ยว ฝนรินในเมืองหลวง (พ.ศ. 2548) 1.ฝนรินในเมืองหลวง 2.คิดฮอดวันละหน่อย 3.ยืมหน้ามาเข้าฝัน 4.ฮักสาวอีเลคโทน 5.แขกผู้มีเกิบ 6.สบตาที่หน้าจอ 7.หัวใจไม้ลำปอ 8.ฮักเจ้าคือเก่าเด้อ 9.สัญญาฮักปากทาง คำสัญญาของหนุ่มบ้านนอก (พ.ศ. 2550) 1.เบอร์โทรนี้มีแฟนหรือยัง 2.สุดท้ายคืออ้ายเจ็บ 3.หวานใจหน้าจอ 4.ขอแค่ได้บอก 5.ห่วงเจ้าสาวลำน้ำมูล 6.เต็มใจให้ตั๋ว 7.ไปรักกันที่อื่น...ได้บ่ 8.สาวนาขาแดนซ์ 9.ใจหล่นที่หน้าราม 10.คำสัญญาของหนุ่มบ้านนอก อยากบอกว่าอ้ายเหงา (พ.ศ. 2551) 1.สาวกันตรึม 2.บังเอิญมีหัวใจ 3.อยากบอกว่าอ้ายเหงา 4.กลับมาถามหากำลังใจ 5.คนบ้านเดียวกัน 6.ซ้อนมอเตอร์ไซค์ไปก่อน 7.ลูกจ้างความจน 8.แอ๋มของอ้าย 9.ข้อความจากเถียงนาน้อย 10.เมือเล่นสงกรานต์ อยากมีเธอเป็นแฟน (พ.ศ. 2552) 1.แสงเดือนถามข่าวแสงดาวนำทาง 2.สู้เด้อพี่น้อง 3.3อยากมีเธอเป็นแฟน 4.สักคนที่เข้าใจ 5.ขอบคุณทุกแรงใจ 6.ยิ่งห่างยิ่งคิดฮอด 7.ยางลบหัวใจชื่อเสียสละ 8.เฮาเป็นเสี่ยว 9.เตรียมนายฮ้อย 10.คิดฮอด... ฮักแท้ มีเธอจึงมีฝัน (พ.ศ. 2553) 1.ลูก ตจว. 2.มีเธอจึงมีฝัน 3.เพราะรักถึงลาก่อน 4.ยามคิดฮอด....กอดด้วยอ้อมใจ 5.ขอเป็นผู้ช่วยเจ็บ 6.ทบ.2 ลูกอีสาน 7.สาวเย็บผ้า 8.โยนใจถามทาง 9.อยากเห็นหน้าเธอทุกวัน 10.เนียง เนอว อินา (น้องอยู่ที่ไหน) |
||||
ชุดที่ 6 เป็นเพื่อนไม่ได้
หัวใจอยากเป็นแฟน
1. อยากจองที่ว่างข้างๆเธอ 2. เป็นเพื่อนไม่ได้ หัวใจอยากเป็นแฟน 3. กลับบ้านกันบ่ 4. โทรมาคิดฮอด 5. เลิกกันแต่ไม่มีวันเลิกเจ็บ 6. ติดชาร์ตหัวใจเสมอ 7. ความฮัก 8. มอเตอร์ไซค์รับแฟน 9. โลกใบเหงาของเราสองคน 10. ถามข่าวหัวใจ |
ชุดที่ 7 เสียใจกี่ครั้งก็ยังเลือกเธอ
1.ชอบทำให้คนคิดถึง
2.เสียใจกี่ครั้งก็ยังเลือกเธอ
3.ภูมิคุ้มกันในวันบ่มีเจ้า
4.รัชดาซอยห่าง
5.คนแรกที่ทำให้รัก
6.รู้จักความรักเมื่อรู้จักเธอ
7.ฝันจมน้ำตา
8.คนมีผู้สาว
9.ยังคอยสู่ขวัญ
10.กลับนามากราบพ่อ
2.เสียใจกี่ครั้งก็ยังเลือกเธอ
3.ภูมิคุ้มกันในวันบ่มีเจ้า
4.รัชดาซอยห่าง
5.คนแรกที่ทำให้รัก
6.รู้จักความรักเมื่อรู้จักเธอ
7.ฝันจมน้ำตา
8.คนมีผู้สาว
9.ยังคอยสู่ขวัญ
10.กลับนามากราบพ่อ
ชุดที่
8 ตั้งใจแต่ยังไปไม่ถึง
01. ตั้งใจแต่ยังไปไม่ถึง
02. ฝืนใจหน่อยได้ไหม
03. หนุ่มบ้านไกลใจฮักจริง
04. อ้ายหมดหน้าที่หรือยัง
05. ตั๋วอ้ายเป็นคนสุดท้ายได้บ่
06. ยอมเป็นคนอกหัก
07. นายฮ้อยแรงงาน
08. รักเสมอไม่ว่าอยู่ไหน
08. รักเสมอไม่ว่าอยู่ไหน
09. ซูเปอร์สตาร์หน้าเฟซ
10. สู้เพื่อเธอ
10. สู้เพื่อเธอ
ไผ่ พงศธร
หนุ่มตามฝันจากบ้านไกล ไผ่ พงศธร (Lisa)
เปลือยใจแบบไม่เหลือเปลือก ชีวิต ตัวตน แรงใจ และไฟฝันของนักร้องลูกทุ่งจากบ้านไกล ไผ่ พงศธร
นับจากวันที่อัลบั้มแรกในชีวิตของ ไผ่ พงศธร เปิดตัวบนเส้นทางสายลูกทุ่งเมื่อ 5 ปีที่แล้ว ชื่อของหนุ่มคนนี้ก็เข้าไปนั่งในใจของคลอลูกทุ่งทั่วบ้านทั่วเมือง นั่นก็ด้วยว่าเป็นแนวเพลงที่ไม่เหมือนใครและไม่มีใครเหมือน คือเป็นเพลงลูกทุ่งที่คละเคล้าไปด้วยกลิ่นอายดนตรีจากที่ราบสูง ทั้งยังส่องสะท้อนชีวิตลูกอีสานที่มาสู้งานในเมืองใหญ่ ที่สำคัญน้ำเสียงอดอ้อนอันทรงเสน่ห์ของเขายังชวนฝันยิ่งนัก ดังนั้น จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่หลายคนจะอยากรู้จักกับหนุ่มตามฝันจากบ้านไกล ไผ่ พงศธร คนนี้แบบถึงแก่น

ไผ่ พงศธร : ใช่ครับ ผมเกิดมาในครอบครัวชาวนาจากหมู่บ้านสร้างแต้ อ.กุดชุม จ.ยโสธร ต้องบอกตรงๆ ว่าชีวิตในวัยเด็กนั้นก็มีความสุขตามอัตภาพของคนชนบทอีสาน อาจจะขาดเหลือปัจจัยในการดำรงชีวิตบ้าง แต่ถึงอย่างไรเราก็มีความสุขครับบ้านผมมีอาชีพหลักคือทำนา และพ่อกับแม่จะมีอาชีพเสริมคือเล่นหมอลำ ดังนั้น การชื่นชอบในเสียงเพลงจึงบ่มเพาะมาจากตรงนี้แหละครับ

ไผ่ พงศธร : ตอนที่ผมกำลังเรียนอยู่ชั้นม.4 พ่อของผมก็เสียชีวิต ซึ่งในช่วงนั้นถือเป็นการหักเหของชีวิตครั้งใหญ่เพราะพ่อคือเสาหลักของบ้านครับ ผมตัดสินใจออกไปทำงานเพื่อหาเงินมาเลี้ยงครอบครัวเพิ่มขึ้น และเป็นจังหวะเดียวกันกับที่คณะหมอลำแถวบ้านขาดนักแสดงหน้าวงพอดี ผมจึงได้เข้ามาร่วมงานกับวงหมอลำ ทำหน้าที่ทุกอย่างตั้งแต่เด็กยกเครื่องและเต้นโชว์หน้าเวที ผมร่วมคณะนี้อยู่ประมาณ 2 ปี พอดีกับที่ทางวงหมดหน้างานจึงทำให้เด็กในวงลำบากจนต้องออกมาลำขอข้าว (เล่นหมอลำแลกข้าวเปลือกและข้าวสาร) ตระเวนไปตามหมู่บ้านต่างๆ เพื่อขอข้าวมาขายแล้วเลี้ยงสมาชิกในวงเวลาที่ไม่มีงาน ทำอยู่ได้ไม่นานก้องแยกย้ายกันไป เพราะเงินไม่พอเลี้ยงกันครับ
ชีวิตเปลี่ยนอีกครั้งเมื่อเดินทางเข้ากรุง
ไผ่ พงศธร : เมื่อเรียนจบม.6 ผมจึงเดินทางเข้ากรุงเทพฯ ด้วยความคิดแค่เพียงว่าจะมาช่วยพี่สาวที่เปิดร้านขายอาหารแถวๆ ราษฎร์บูรณะ แต่แล้วชีวิตของผมก็เปลี่ยนไปเมื่อมีคนเห็นแววและพยายามผลักดันนั่นก็คือการได้เจอกับ คุณหยก ลูกหยี (จิตรชัย ภาวังคาม) คือคุณหยกได้ชักชวนให้ผมสมัครเป็นนักร้องด้วยการทำเดโมเทปไปเสนอตามค่ายเพลงต่างๆ สลับกับการประกวดร้องเพลงจากเวทีต่างๆ ซึ่งช่วงนั้นผมตัดสินใจแยกออกมาจากพี่สาวเพื่อทำเพลงเสนอค่ายเพลง ช่วงนั้นเป็นช่วงที่ผมลำบาดสุดๆ เลยล่ะครับ
ความลำบากที่ว่านั้นลำบากอย่างไรบ้าง
ไผ่ พงศธร : คืออย่างนี้ครับ บางวันมีเงินรวมกันแล้วได้แค่ 5-10 บาทเท่านั้นเอง! ต้องเอาเงินซื้อข้าวเปล่า มาหนึ่งถุง ส่วนกับข้าวไม่ต้องพูดถึงไม่มีอยู่แล้ว แต่อาศัยวิธีขอน้ำปลาจากร้านที่ซื้อข้าวด้วย พอกลับถึงห้องก็ใช้น้ำปลาราดข้าวและแบ่งกันกินคนละนิดละหน่อยจนบางครั้งถึงขนาดที่ไม่ได้กินข้าวถึง 2 วันเลยก็มีเพราะไม่มีเงินซื้อ หลายครั้งต้องเอาบัตรประจำตัวประชาชนไปเซ็นร้านค้าแถวนั้น แต่พอบ่อยๆ เข้าเขาก็ไม่ให้เซ็น แม้กระทั่งขึ้นรถเมล์ยังไม่มีเงิน จำต้องเดนิเป็นระยะทางกว่า 10 กิโลเมตรเลยทีเดียว หรืออย่างบางครั้งที่ไม่มีเงินจริงๆ ก็ออกเดินดูตามตู้โทรศัพท์สาธารณะ เพื่อดูว่ามีเงินที่ค้างอยู่ตามช่องคืนเหรียญบ้าง หรือเปล่า บางครั้งต้องเดินเป็นสิบๆ ตู้ซึ่งก็ได้บ้าง ไม่ได้บ้าง ช่วงนั้นอย่าว่าแต่เรื่องของอนาคตเลย ไม่มีความหวัง คิดเพียงว่าวันพรุ่งนี้จะเอาอะไรมากินแค่นั้นเองครับ ชีวิตผมเป็นแบบนี้อยู่นานเหมือนกันนะ ยอมรับว่าเคยท้อแท้อยู่หลายครั้ง เคยคิดจะเลิกเป็นนักร้องด้วยซ้ำไป ลำบากมากจริงๆ ในที่สุดผมก็ตัดสินใจไปช่วยพี่สาวขายอาหารอีสานอีกครั้งครับ
มีแรงใจในการใช้ชีวิตอีกครั้งช่วงไหน
ไผ่ พงศธร : ตอนที่คุณหยก ลูกหยี นำเดโมเทปที่เคยทำให้ครูสลา คุณวุฒิ (ครูเพลงลูกทุ่งชื่อดังในสังกัดค่ายแรกมมี่โกลด์) ได้ฟัง ครูสลาท่านสนใจมาก และเรียกเข้าไปสกรีนเทสต์ที่แกรมมี่ครับ ตอนนั้น ผมไม่เชื่อว่าเป็นความจริง เพราะการจะได้สกรีนเทสต์ในแกรมมี่โกลด์นั้นเป็นสิ่งที่ยากมากๆ ครับ จนถึงวันที่เซ็นสัญญาก็ยังไม่เชื่ออยู่ดี คิดอยู่เสมอว่าเอ? เราฝันไปหรือเปล่านี่ จนเมื่อได้ออกอัลบั้มชุดแรกในชื่อว่า “ฝนรินในเมืองหลวง” จึงเชื่อว่านี่คือผลงานของตัวเองจริงๆ ครับ ช่วงรอทำอัลบั้มทางแกรมมี่โกลด์ก็หางานให้ทำโดยส่งให้ผมขึ้นไปร้องเพลงบนเวทีของไมค์ ภิรมย์พร เพื่อฝึกฝน ตัวเองและเก็บเกี่ยวประสบการณ์หน้าเวทีให้ได้มากที่สุด ในช่วงนั้นก็นำเพลงของนักร้องรุ่นพี่อย่าง เอกพล มนต์ตระการ มาขับร้อง เพราะยังไม่มีเพลงเป็นของตัวเองครับ
อัลบั้มแรกในชีวิต "ฝนรินในเมืองหลวง" สะท้อนความเป็นตัวตนของไผ่มากแค่ไหน
ไผ่ พงศธร : มาก ๆ เลยล่ะครับ อย่างคอนเซ็ปต์โดยรวมจะเป็นการพูดถึงลูกอีสานทั้งหลาย รวมทั้งตัวของผมเองด้วยที่มาสู้งานในเมืองใหญ่ ยิ่งเรื่องของดนตรียิ่งสะท้อนครับเพราะเป็นเพลงลูกทุ่งที่นำดนตรีอีสานมาประยุกต์เข้าด้วยกัน บอกตรงๆ ครับว่าร้องเพลงนี้ทีไรผมน้ำตาไหลคิดถึงบ้านที่จากมาทุกที นอกจากนั้นเพลงโปรโมตที่มี ชื่อเดียวกับอัลบั้มที่บอกเล่าว่าฝนรินหรือฝนตกปรอยๆ ในเมืองหลวงนั้นมันสร้างความเหงาให้แก่คนที่จากบ้านมาไกลได้อย่างถึงขั้วหัวใจจริงๆ ครับ
ถึงวันนี้มีผลงานออกมาที่ชุดแล้ว
ไผ่ พงศธร : ที่เป็นอัลบั้มเดี่ยวไม่รวมอัลบั้มชุดพิเศษที่ทำงานร่วมกับศิลปินท่านอื่นๆ ทั้งหมดก็ 5 ชุดแล้วครับนับตั้งแต่ฝนรินในเมืองหลวง, คำสัญญาณของหนุ่มบ้านนอก, อยากบอกว่าอ้ายเหงา, อยากมีเธอเป็นแฟน และล่าสุดที่เพิ่งวางแผงเมื่อต้นปีที่ผ่านมาคือ มีเธอจึงมีฝันครับ แต่ละอัลบั้มจะเป็นการร้อยเรียงเรื่องเล่าที่ต่อเนื่องกันมาตั้งแต่การทำงานครั้งแรกจนถึงชุดล่าสุด แต่ด้วยคอนเซ็ปต์ของการทำงานก็ยังยืนพื้นที่เรื่องเดิมคือเรื่องเล่าของลูกอีสานที่จากบ้านมาสู้งานในเมืองใหญ่
ในวันนี้ถือว่าถึงที่สุดแห่งความฝันแล้วหรือยัง
ไผ่ พงศธร : ที่สุดตามที่พี่ถามผมไม่รู้หรอกนะครับว่าคืออะไร แต่เท่าที่ผมสัมผัสได้คือทุกวันนี้ผมมีความสุขมากๆ สุขที่ได้เป็นผู้ให้ คือได้เป็นผู้รับผิดชอบค่าใช้จ่ายของครอบครัวทั้งหมด ได้ดูแลแม่ ดูแลพี่สาวทั้ง 3 คน ทดแทนการที่เขาเคยดูแลผมมา คือถ้าไม่มีพวกเขาก็คงไม่มีไผ่ พงศธร ในวันนี้แน่ๆ ส่วนความสุขอีกหนึ่งอย่างก็คือผมมีความสุขมากๆ ที่ได้ทำในสิ่งที่ผมรักและชอบก็คือการเป็นนักร้องลูกทุ่ง
ส่วนตัวมองว่าเพลงลูกทุ่งคืออะไร นอกเหนือจากการเป็นอาชีพที่สร้างชื่อให้แก่ตัวเองอย่างในวันนี้
ไผ่ พงศธร : สั้น ๆ ง่าย ๆ เลยนะครับ เพลงลูกทุ่งคือความสุขของผม ผมสุขใจทุกๆ ครั้งที่ได้ร้องเพลงทั้งเมื่ออยู่บนเวที อยู่ในห้องอัด หรือแม้แต่ร้องเวลาที่ผมอาบน้ำในห้องน้ำครับ และที่สำคัญสุด ๆ ก็คือ ถ้าหากไม่มีเพลงลูกทุ่งก็คงไม่มีไผ่ พงศธร ในวันนี้อย่างแน่นอน ผมเชื่ออย่างนั้น
ทุกวันนี้สัมผัสได้ถึงความฮอตมาก ๆ ของตัวเองในอาณาจักรลูกทุ่งหรือเปล่า
ไผ่ พงศธร : อืมเหรอครับ ผมว่าผมก็ยังเป็นผมเหมือนเดิมอยู่นะครับ เพียงแต่ว่าผมมีหน้าที่ที่เพิ่มเข้ามาคือการทำหน้าที่เป็นนักร้องลูกทุ่งเท่านั้นเอง ส่วนเรื่องความดังหรือความฮอตก็คงไม่ใช่เป็นเพราะผมเพียงคนเดียว แต่เป็นเพราะความเก่งของครูเพลงความช่ำชองของโปรดิวเซอร์ รวมถึงการทำงานอย่างเต็มกำลังความสามารถของทีมงานท่านอื่น ๆ รวมกันด้วย
เรื่องที่รู้สึกดีที่สุดตั้งแต่เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของวงการเพลงลูกทุ่ง
ไผ่ พงศธร : คงเป็นเรื่องที่แฟน ๆ ให้การตอบรับผมเป็นอย่างดีเสมอมา ออกอัลบั้มมากี่ชุดยังไม่เคยลืมกันเลย คิดถึงเรื่องนี้เมื่อไหร่ก็ปลื้มใจจนแทบน้ำตาไหลครับผมไม่นึกไม่ฝันว่าเด็กจากบ้านนอกคนหนึ่งจะได้ใจคนมากมาขนาดนี้
แล้วเรื่องที่ชวนให้รู้สึกแย่ที่สุดล่ะ
ไผ่ พงศธร : ผมบอกตามตรงว่าปัญหาเรื่องเทปผีซีดีเถื่อนนะครับ เพราะถ้าเมื่อไหร่ที่ผมรู้สึกท้อก็คงหยุดทำงานนี้ไปเลย แต่ว่ามันออกไปในแนวละเหี่ยใจมากกว่าครับ อยากฝากไปถึงแฟนเพลงทุกคนว่ากว่าจะได้ผลงานอัลบั้มหนึ่ง ๆ ออกมานั้นทีมงานต้องทุ่มเทให้ทั้งชีวิต ร่างกาย และจิตใจ ที่สำคัญเรื่องเวลาก็นานพอสมควร ฝากให้สงสารพวกเราบ้างนะครับ ถ้ารักกันจริง ๆ ก็ต้องไม่ส่งเสริมเทปผีซีดีเถื่อนนะครับ
งานที่อยากให้แฟน ๆ ช่วยกันติดตาม
ไผ่ พงศธร : ก็คงเป็นอัลบั้มชุดล่าสุดครับ "มีเธอจึงมีฝัน" ซึ่งเป็นอัลบั้มชุดที่ 5 ของผมแล้ว งานเพลงก็จะเป็นสไตล์ซึ้ง ๆ เหงา ๆ ตามสไตล์หนุ่มบ้านไกลที่มาสู้งานที่เมืองกรุงครับ แต่ว่าก็จะเน้นไปที่ความสมหวังในเรื่องของความรักมากกว่าทุก ๆ ชุดที่ผ่าน นอกจากนั้นในเร็ว ๆ นี้ก็จะเป็นอัลบั้มที่ผมทำงานร่วมกับศิลปินท่านอื่น ๆ คือเป็นการนำเพลงของพี่ไมค์ ภิรมย์พร มาร้องใหม่ในโอกาสครบรอบ 17 ปีของพี่ไมค์ ที่ใช้ชื่อชุดว่า "น้องร้องเพลงพี่ไมค์" ซึ่งผมมีส่วนร่วมคือร้องเพลงเดี่ยวถึง 4 เพลง และร้องรวมอีก 4 เพลง ซึ่งก็คาดว่าน่าจะวางแผงในเร็ววันนี้ ที่สำคัญสิ่งที่ผมอยากฝากจริง ๆ ก็คือว่าขอให้ช่วยอุดหนุนแผ่นจริงหน่อย ถือว่าสงสารพวกผมก็แล้วกันนะครับ
อยากให้บอกนิยามสั้น ๆ ที่สะท้อนความเป็นผู้ชายที่ชื่อ ไผ่ พงศธร
ไผ่ พงศธร : คงไม่มีคำคำไหนที่สามารถสะท้อนชีวิตและตัวตนของผมได้ดีเท่ากับคำว่าหนุ่มตามฝันจากบ้านไกลครับ เพราะคำคำนี้ส่องสะท้อนให้เห็นถึงที่มาที่ไปรวมถึงสิ่งที่ผมกำลังเป็นได้ดีที่สุดครับ
นาที นี้เชื่อได้อย่างสนิทใจว่าเรื่องเล่าการเดินตามฝันที่เต็มไปด้วยแรงใจของ หนุ่มบ้านไกลคนนี้คงสร้างกำลังใจในวันที่รู้สึกท้อให้แก่สาว ๆ ได้ไม่น้อยเลยล่ะ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น