วันพฤหัสบดีที่ 19 กันยายน พ.ศ. 2556

สโมสรฟุตบอลเอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด

ไฟล์:Muangthongutd.png
สโมสรฟุตบอลเอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด เป็นสโมสรฟุตบอลในประเทศไทย ลงเล่นในระดับไทยพรีเมียร์ลีก โดยเลื่อนชั้นขึ้นมาในฐานะแชมป์ดิวิชั่น 1 เมื่อจบฤดูกาล 2551

ประวัติสโมสร

ยุคแรก (โรงเรียนหนองจอกพิทยานุสรณ์)

ผู้ก่อตั้งสโมสรฟุตบอลเมืองทองหนองจอก ยูไนเต็ด คือ วรวีร์ มะกูดี ซึ่งปัจจุบันเป็นนายกสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ภายหลังก่อตั้งทีมโรงเรียนศาสนวิทยา หรือสโมสรฟุตบอลบีอีซี เทโรศาสนปัจจุบัน 3 ปี ชื่อแรกที่ขึ้นทะเบียนไว้กับสมาคมฟุตบอลเป็นชื่อทีมโรงเรียนหนองจอกพิทยานุสรณ์ เริ่มไต่เต้าจากถ้วยเล็กสุดอย่างถ้วยพระราชทานประเภท ง กระทั่งในการแข่งขันฟุตบอลลีกดิวิชัน 1 ฤดูกาล 2545-2546 ทีม ร.ร.หนองจอกพิทยานุสรณ์ก็ได้เปลี่ยนชื่อเป็นหนแรกเป็น สโมสรฟุตบอลไข่มุกดำหนองจอก โดยได้วีระ มุสิกพงศ์ อดีตนักการเมือง เข้ามาทำทีม แต่แค่ฤดูกาลเดียวเมื่อไม่ประสบความสำเร็จวีระ ก็เลิกลาไปโดยที่ทีมยังคงอยู่ในลีกดิวิชัน 1 ต่อไป

เข้าสู่ระบบลีก

ฤดูกาลต่อมาของลีกดิวิชัน 1 2546 - 2547 ทีมเปลี่ยนชื่ออีกครั้งตามกลุ่มที่เข้ารับทำทีมต่อคือ สโมสรฟุตบอลหลักทรัพย์โกล์เบล็ค หนองจอก โดยมีสมศักดิ์ เซ็นเชาวนิช เป็นผู้จัดการทีม แต่ปีนั้นทีมทำผลงานได้ย่ำแย่ จนสุดท้ายก็ต้องตกชั้นไปเล่นในถ้วยพระราชทานประเภท ข ในฤดูกาล 2547-2548 โดยกลับไปใช้ชื่อเดิม ร.ร.หนองจอกพิทยานุสรณ์ แต่ก็ไม่ประสบความสำเร็จเท่าที่ควร
ต่อมา สมาคมฟุตบอลฯ ต้องการยกระดับลีกการแข่งขันในประเทศของไทย ให้เป็นสากลมากขึ้นจึงก่อตั้งลีกดิวิชัน 2 ขึ้นมาโดยนำทีมจากถ้วยพระราชทาน ข และ ค มาผสมรวมกันเพื่อแข่งขันในลีกนี้ในฤดูกาล 2549 - 2550 ซึ่ง ร.ร.หนองจอกพิทยานุสรณ์ได้สิทธิ์เข้าแข่งขันด้วย และปีนั้นกับลีกดิวิชัน 2 ของไทยครั้งแรกชื่อทีมเมืองทองหนองจอก ยูไนเต็ด โดยผู้สนับสนุนทีมคือ ระวิ โหลทอง ที่รับตำแหน่งประธานสโมสร

ยุคเริ่มต้นความสำเร็จ

เริ่มต้นที่ปี พ.ศ. 2550 ปีนั้นทีมใช้ผู้จัดการทีมอย่างนพพร เอกศาสตราคุมทีม โดยมีโรเบิร์ต โปรคูเรอร์เป็นผู้จัดการทีม ปีนั้นเมืองทองหนองจอก ยูไนเต็ดได้แชมป์ลีกดิวิชัน 2 ครั้งแรกพร้อมได้สิทธิ์ขึ้นไปเล่นลีกดิวิชัน 1 ในปี พ.ศ. 2551 ในปีต่อมา ผู้จัดการทีมอย่างสุรศักดิ์ ตังสุรัตน์ สามารถพาทีมคว้าแชมป์ลีกดิวิชัน 1 ประจำปี 2551 มาครอบครองได้สำเร็จ พร้อมขึ้นชั้นมาเล่นไทยพรีเมียร์ลีก 2552 (ไทยลีก ครั้งที่ 13)
ไทยพรีเมียร์ลีก 2552 อันเป็นครั้งแรกของทีมเมืองทองหนองจอก ยูไนเต็ด ที่ได้ขึ้นมาเล่นลีกสูงสุดของประเทศ นับจากก่อตั้งสโมสรมา 20 ปีนั้น ปีนั้น เมืองทองหนองจอก ยูไนเต็ดสร้างประวัติศาสตร์เป็นทีมแรกที่สามารถคว้าแชมป์ฟุตบอลลีกของไทยไล่จากลีกดิวิชัน 2, ดิวิชัน 1 จนถึงลีกสูงสุดโดยใช้เวลาเพียง 3 ปี

ฤดูกาล 2553

สโมสรฟุตบอลเมืองทอง หนองจอก ยูไนเต็ด ที่ได้แชมป์ไทยพรีเมียร์ลีก 2552 ในฤดูกาลก่อนได้ลงป้องกันแชมป์ไทยพรีเมียร์ลีก โดยตลอดทั้งฤดูกาลก็ทำผลงานได้ดีจนได้แชมป์ไทยพรีเมียร์ลีก 2553 เป็นสมัยที่สองติดต่อกัน ซึ่งการได้ 2 สมัยนั้นทำให้มีสถิติเทียบเท่าบีอีซี เทโรศาสนธนาคารกรุงไทย และทหารอากาศ (หรือแอร์ฟอร์ซ ยูไนเต็ด ในปัจจุบัน)  ส่วนก่อนฤดูกาลแข่งขันนั้นก็ได้แชมป์ ถ้วยพระราชทานประเภท ก ที่สามารถชนะการท่าเรือไทย ได้ 2-0 ส่วนถ้วยอื่น ๆ อย่างเอเอฟซีคัพ และไทยคม เอฟเอคัพ ได้ตำแหน่งรองชนะเลิศ

ฤดูกาล 2554

สโมสรฟุตบอลเมืองทอง หนองจอก ยูไนเต็ดได้ลงป้องกันแชมป์ไทยพรีเมียร์ลีกติดต่อกันเป็นปีที่ 3 ครั้งนี้ทีมพยายามอย่างเต็มที่เพื่อจะได้เป็นแชมป์ 3 สมัยติดต่อกัน แต่ด้วยการไปเล่นเอเอฟซีคัพ ทำให้มีการเหนื่อยล้าของนักเตะรวมถึงการเปลี่ยนผู้จัดการทีมใหม่จากเรอเน เดอซาแยร์มาเป็นการ์ลูส โรเบร์ตู จี การ์วัลยูและเฮ็นริเก คาลิสโต ในช่วงเลก 2 ของฤดูกาลมีการเซ็นสัญญาซื้อร็อบบี ฟาวเลอร์เข้าร่วมทีม ต่อมาในเดือนกันยายน คาลิสโต ที่พาทีมตกรอบเอเอฟซีคัพ ถูกทางสโมสรปลดออก และร็อบบี ฟาวเลอร์ ตำแหน่งเพลยเออร์-เมเนเจอร์ (เป็นทั้งผู้จัดการทีมและผู้เล่น) โดยทำการคุมทีมนัดแรกในนัดที่พบกับเอสซีจี สมุทรสงคราม หลังจากนั้นอีกไม่นาน เมื่อเมืองทอง ยูไนเต็ด ได้เพียงอันดับ 3 ในฤดูกาลนี้ ทำให้ฟาวเลอร์ ได้ขอลาออกจากตำแหน่ง

ฤดูกาล 2555

ปูนซีเมนต์ไทย (เอสซีจี) ได้เซ็นสัญญาเพื่อมาเป็นผู้สนับสนุนของทีม โดยมีมูลค่าสัญญามากถึง 600 ล้านบาท และได้ทำการเปลี่ยนชื่อสนาม จาก "ยามาฮ่า สเตเดียม" มาเป็น "เอสซีจี สเตเดียม" และชื่อทีมจาก "เมืองทอง หนองจอก ยูไนเต็ด" มาเป็น "เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด" ส่วนโลโก้ของสโมสรก็มีการเปลี่ยนให้ตัวกิเลนทั้ง 2 ตัว มีขาชิดกันมากขึ้นกว่าเดิม ช่วงก่อนเปิดฤดูกาลก็ได้มีการซื้อเอกภูมิ โพธารุ่งโรจน์มงคล นามนวดอัดนัน บาราคัท และมารีโอ ยูโรฟสกี เข้ามาร่วมทีม รวมถึงการเซ็นสัญญาผู้จัดการทีมคนใหม่ คือ สลาวีชา วอคานอวิช โดยผลงานจบเลกแรก ด้วยการเป็นอันดับที่ 1 ของตารางไทยพรีเมียร์ลีก 2555 หลังจากนั้นก่อนเปิดเลกที่ 2 ก็ได้มีการซื้อนักเตะเพิ่มเติม โดยมีเอดีบัลโด โรคัซ เอร์โมซา ปีกทีมชาติโบลิเวีย และเปาโล เรนเกิล นักเตะบราซิล ต่อมาในช่วงเดือนกันยายน ทีมได้ตกรอบโตโยต้า ลีกคัพ ด้วยการแพ้ทีโอที เอสซี และตกรอบไทยคม เอฟเอคัพด้วยการแพ้อาร์มี ยูไนเต็ด แต่ทีมยังรักษาอันดับ 1 ไว้ได้ตั้งแต่เลกแรก และจนถึงช่วงปลายเลกที่ 2 ทีมก็ยังรักษาฟอร์มที่ดีไว้ได้ จนเหลือ 3 นัดสุดท้าย เมื่อแต้มได้ทิ้งห่าง ชลบุรี เอฟซี ทีมอันดับที่ 2 มากพอที่จะได้เป็นแชมป์อย่างเป็นทางการตั้งแต่ยังไม่จบฤดูกาล โดยมีการฉลองแชมป์ที่เอสซีจี สเตเดียม ในนัดที่พบกับชัยนาท เอฟซี โดยหลังจบเกม ทางสโมสรให้แฟนบอลได้ฉลองกันอย่างเต็มที่ และให้ลงมาสัมผัสสนามหญ้าของเอสซีจี สเตเดียม รวมไปถึงให้พบกับนักฟุตบอลของทีมอย่างใกล้ชิดและเป็นกันเอง และฤดูกาลหน้า สโมสรจึงได้สิทธิ์ไปเล่นเอเอฟซีแชมเปียนส์ลีกในรอบแบ่งกลุ่ม และปีนี้เองที่ เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด ได้ทำสถิติไร้พ่ายเป็นทีมแรกของเมืองไทยและของสโมสร

สนาม

เอสซีจี สเตเดียม
เอสซีจี สเตเดียม
Yamaha stadium.jpg
ที่ตั้งอำเภอปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรีประเทศไทย
เจ้าของการกีฬาแห่งประเทศไทย
ผู้ดำเนินการสโมสรฟุตบอลเอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด
ความจุ17,500 ที่นั่ง[1]
ใช้จัดงาน
สโมสรฟุตบอลเอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด
สโมสรฟุตบอลเมืองทอง ยูไนเต็ด ใช้สนามเอสซีจี สเตเดี้ยมเป็นสนามเหย้า โดยสนามแห่งนี้อยู่หลังอาคารชาเลนเจอร์ นอกจากนี้ยังมีห้องวีไอพี บ็อก ให้บริการ และพื้นที่สำหรับผู้สื่อข่าว รวมถึงห้องแถลงข่าว
สำหรับสนามเอสซีจี สเตเดียม นั้นปัจจุบันมีความจุ 17,500 ที่นั่ง ได้มาตรฐานเอเอฟซี ย้อนกลับไปปี พ.ศ 2550 สภาพสนามเอสซีจี สเตเดี้ยม ซึ่งยังเรียกว่า ธันเดอร์โดม สเตเดี้ยม แสดงพัฒนาการให้เห็นขึ้นตามลำดับ ไล่มาตั้งแต่การคว้าแชมป์ดิวิชั่น 2 ในปี 2550 ก่อนจะก้าวไปอีกขั้นกับ แชมปืดิวิชั่น 1 ในปี 2551 ต่อด้วย แชมป์ไทยพรีเมียร์ลีก ในปี 2552 จนแฟนคลับมีจำนวนเพื่มขึ้นตามลำดับ จึงได้มีการเปลี่ยนชื่อสนามเป็น ยามาฮ่า สเตเดี้ยม พร้อมลงมือก่อสร้างอัฒจรรย์ทั้ง 3ด้าน รวมถึงสิ่งอำนวยความสะดวกและในปี 2553 ได้ทำการปรับปรุงพื้นสนาม โดยใช้หญ้าพันธุ์ดีอย่าง "พาสพาลัม" ขณะที่ส่วนอัฒจรรย์ ที่นั่งของสนามยามาฮ่าสเตเดี้ยม ยังติดตั้งเก้าอี้ จำนวน 9,000 ที่นั้ง ในอัฒจรรย์ฝั่งทิศตะวันออก และตะวันตก ปี 2555 ได้เปลี่ยนชื่อตามสปอนเซอร์ใหม่เป็น "เอสซีจี สเตเดียม"
ราคาตั๋ว อัฒจรรย์ทิศตะวันตก (West Stand) โซน W1-W3 และ W7 120 บาท โซน W4-W6 150 บาท อัฒจรรย์ทิศตะวันออก (East Stand) โซน E1 และ E4 120 บาท โซน E2-E3 200 บาท อัฒจรรย์ทิศเหนือ (North Stand) และทิศใต้ (South Stand) 100 บาท
อนาคตทางเอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ดมีแผน 2 แผนคือ ต่อเติมให้มีความจุ 25,000 คน หรือสร้างสนามใหม่เพื่อรองรับแฟนบอล 35,000 คน ซึ่งใช้งบราว 500-700 ล้านบาท
ลักษณะการเชียร์ กองเชียร์เมืองทอง ยูไนเต็ด จะเรียกกันว่า "อุลตร้า เมืองทอง เชียร์ไม่มีหมด 90 นาที และ กิเลน N-ZONE" โดยมีฝั่งอัฒจรรย์ ทิศเหนือ และทิศใต้ เป็นโซนยืนเชียร์แต่ปัจจุบันได้ติดเก้าอี้แล้ว ส่วนอัฒจรรย์ทิศตะวันออก และตะวันตก เป็นที่นั่งติดเก้าอี้ทั้งหมด

ผลงาน

  • 2555 - ไทยพรีเมียร์ลีก - อันดับ 1 แชมป์
  • 2554 - ไทยคม เอฟเอ คัพ - รองชนะเลิศ
  • 2554 - ไทยพรีเมียร์ลีก - อันดับ 3
  • 2554 - ถ้วยพระราชทาน ก - รองชนะเลิศ
  • 2553 - ไทยคม เอฟเอ คัพ - รองชนะเลิศ
  • 2553 - เอเอฟซี คัพ - รอบรองชนะเลิศ
  • 2553 - ไทยพรีเมียร์ลีก - อันดับ 1 แชมป์
  • 2553 - ถ้วยพระราชทาน ก - ชนะเลิศ
  • 2552 - ไทยพรีเมียร์ลีก - อันดับ 1 แชมป์
  • 2551 - ไทยลีก ดิวิชั่น 1 - อันดับ 1 แชมป์
  • 2550 - ไทยลีก ดิวิชั่น 2 - อันดับ 1 แชมป์

ผลงานตามฤดูกาลแข่งขัน

ฤดูกาลลีกเอฟเอคัพลีกคัพควีนส์คัพถ้วย กเอเอฟซี
แชมเปียนส์ลีก
เอเอฟซีคัพอาเซียน
คลับ
ผู้ทำประตูสูงสุด
ระดับแข่งขันแต้มอันดับชื่อผู้ทำประตูประตู
2550ดิวิชัน 22215523919501
2551ดิวิชัน13019835817651ยาย่า12
2552ไทยลีก3019834820651รอบ3ดักโน10
2553ไทยลีก3020736419671รอบ2รอบ41คัดเลือกรอบรองดักโน15
2554ไทยลีก3417985432603รองแชมป์รอบ52คัดเลือกก่อนรองธีรศิลป์13
2555ไทยลีก3425907831841รอบก่อนรองชนะเลิศรอบ5ธีรศิลป์24
2556ไทยลีก2216334020512รอบก่อนรองชนะเลิศรอบ 16 ทีมสุดท้าย2แบ่งกลุ่มธีรศิลป์14
ชนะเลิศรองชนะเลิศตกชั้นเลื่อนชั้นอยู่ระหว่างทำการแข่งขัน

ผู้ฝึกสอน

รายชื่อผู้ฝึกสอน (2550 - ปัจจุบัน)
ชื่อสัญชาติระยะเวลาความสำเร็จ
นพพร เอกศาสตราไทย2550 - 2551แชมป์ ดิวิชัน 2
นาวาเอก สุรศักดิ์ ตังสุรัตน์ไทย2551 - เมษายน 2552แชมป์ ดิวิชัน 1
อรรถพล บุษปาคมไทยเมษายน 2552 - มกราคม 2553แชมป์ ไทยพรีเมียร์ลีก
เรอเน เดอซาแยร์เบลเยียมมกราคม 2553 - มกราคม 2554แชมป์ ไทยพรีเมียร์ลีก
การ์ลูส โรเบร์ตู จี การ์วัลยูบราซิลมกราคม 2554 - มีนาคม 2554
โรเบิร์ต โปรคูเรอร์เบลเยียมมีนาคม 2554ดูแลทีมชั่วคราว
เอนรีเก คาลีสตูโปรตุเกสมีนาคม 2554 - กันยายน 2554
ร็อบบี ฟาวเลอร์อังกฤษตุลาคม 2554 - มกราคม 2555
มีลอส โจซิคเซอร์เบียมกราคม 2555 - กุมภาพันธ์ 2555ดูแลทีมชั่วคราว
สลาวีชา วอคานอวิชเซอร์เบียกุมภาพันธ์ 2555 – มิถุนายน 2556แชมป์ ไทยพรีเมียร์ลีก
วินฟรีด เชเฟอร์เยอรมนีมิถุนายน 2556 – กรกฎาคม 2556
เรอเน เดอซาแยร์เบลเยียมกรกฎาคม 2556 – ธันวาคม 2556

ผู้เล่นชุดปัจจุบัน

ณ วันที่ 25 กรกฎาคม 2556
หมายเหตุ: ธงชาติที่ปรากฏบ่งบอกให้ทราบว่าผู้เล่นคนนั้นสามารถเล่นให้กับชาติใดตามกฎของฟีฟ่าตามความเหมาะสม เพราะผู้เล่นบางคนอาจถือสองสัญชาติ
No.ตำแหน่งผู้เล่น
2ไทยDFอาทิตย์ ดาวสว่าง
4ไทยDFภานุพงศ์ วงศ์ษา (รองกัปตันทีมที่ 3)
5ประเทศเกาหลีเหนือDFรี กวัง-ช็อน
7ไทยMFดัสกร ทองเหลา (กัปตันทีม)
8ประเทศเกาหลีเหนือMFพัก นัม-ช็อล
9เกาหลีใต้FWพัง ซึง-ฮวัน
10ไทยFWธีรศิลป์ แดงดา (รองกัปตันทีมที่ 4)
13ไทยFWชัยณรงค์ ทาทอง
14ไทยMFศิวกร จักขุประสาท
16ไทยMFจักรพันธ์ พรใส
17ไทยMFชิตชนก ไชยเสนสุรินธร
18ไทยDFมงคล นามนวด
19ไทยMFพิชิตพงษ์ เฉยฉิว (รองกัปตันทีมที่ 2)
No.ตำแหน่งผู้เล่น
20มาซิโดเนียMFมารีโอ ยูโรฟสกี
21โกตดิวัวร์MFดาโน เซียกา (รองกัปตันทีม)
23ไทยDFปิยพล บรรเทา
25ไทยDFฐิติพันธ์ พ่วงจันทร์
26ไทยGKกวิน ธรรมสัจจานันท์
27โบลิเวียMFเอดีบัลโด โรคัซ เอร์โมซา
34ไทยDFธีรชัย งามเจริญ (ยืมตัวจาก ศรีสะเกษ[12])
35ไทยDFวีรวุฒิ กาเหย็ม
36ไทยMFศราวุฒิ มาสุข
38ไทยGKกัมพล ปฐมอรรฆย์กุล
39ไทยGKวิษณุศักดิ์ แก้วเรือง
40เกาหลีใต้DFคิม ยู-จิน

ผู้เล่นที่ถูกยืมตัว

หมายเหตุ: ธงชาติที่ปรากฏบ่งบอกให้ทราบว่าผู้เล่นคนนั้นสามารถเล่นให้กับชาติใดตามกฎของฟีฟ่าตามความเหมาะสม เพราะผู้เล่นบางคนอาจถือสองสัญชาติ
No.ตำแหน่งผู้เล่น
3ไทยDFทศพล ลาเทศ (ไป สิงห์ท่าเรือ จนจบฤดูกาล)
15ไทยMFสารัช อยู่เย็น (ไป นครราชสีมา จนจบฤดูกาล)
24ไทยMFกษิดิ์เดช เวทยาวงศ์ (ไป นครนายก จนจบฤดูกาล)
27สโลวีเนียDFมาเต็จ รัปนิก (ไป นครนายก จนจบฤดูกาล)
No.ตำแหน่งผู้เล่น
ไทยGKทัตพิชา อักษรศรี (ไป นครนายก จนจบฤดูกาล)
ประเทศเกาหลีเหนือFWชเว กึม-ช็อล (ไป นครนายก จนจบฤดูกาล)
ประเทศเกาหลีเหนือFWรี มยง จุน (ไป สิงห์ท่าเรือ จนจบฤดูกาล)
บราซิลFWเปาลู เรนเกล (ไป เประ จนจบฤดูกาล)

ผู้เล่นที่มีชื่อเสีย

บุคลากร

ตำแหน่งชื่อ
ประธานสโมสรกิตติมศักดิ์ไทย สุวัจน์ ลิปตพัลลภ
ประธานสโมสรไทย พงษ์ศักดิ์ ผลอนันต์
รองประธานสโมสรไทย วิลักษณ์ โหลทอง/วรรคสร โหลทอง
ผู้อำนวยการสโมสรไทย รณฤทธิ์ ซื่อวาจา
ผู้จัดการทั่วไปไทย กานต์ จันรัตน์
ผู้จัดการทีมเยอรมนี เรอเน เดอซาแยร์
ผู้อำนวยการอะคาเดมีไทย สมพล ชมชื่น
ผู้ช่วยผู้ฝึกสอนไทย อุทัย บุญเหมาะ/อัจฉริยะ วณิชชานนท์
ผู้ฝึกสอนการรักษาประตูสเปน โคเซบา อีตูอาร์เต
เลขานุการไทย เพียรศักดิ์ อ่อนสำอางค์
แพทย์ประจำสโมสรไทย นท.นพ.พรเทพ ม้ามณี
นักวิทยาศาสตร์การกีฬาไทย ศุภชัย กลางกระแส
เจ้าหน้าที่ทีมไทย สรายุทธ ทองสมาน/พิมุกต์ เขนย
ผู้จัดการฝ่ายการตลาดไทย บรรลือศักดิ์ สุขประพฤติ
เจ้าหน้าที่ฝ่ายประชาสัมพันธ์ไทย อนุสรณ์ ประดิษฐวงค์
เจ้าหน้าที่ประสานงานแฟนคลับไทย ชาญวิทย์ โพธิ์ชัย

สปอนเซอร์

ชุดแข่งขัน

ฤดูกาลเสื้อผู้สนับสนุน
2008ไทย แกรนด์ สปอร์ตยามาฮ่า
2009–2010เยอรมนี อาดิดาสยามาฮ่า
2011ไทย แกรนด์ สปอร์ตยามาฮ่า
2012–ไทย แกรนด์ สปอร์ตเอสซีจียามาฮ่า

สโมสรพันธมิตร

ภายในประเทศ

ต่างประเทศ


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น